แหล่งบันเทิง-บ้าน ควันบุหรี่มือสองสูงเกินมาตรฐาน
ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ เปิดเผยรายงานวิจัยของ รศ.ดร.เนาวรัตน์ เจริญค้า และ รศ.ดร.นิภาพรรณ กังสกุลนิติ คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ที่พบว่า ค่าระดับของฝุ่น PM2.5 และ ระดับนิโคตินในอากาศ ซึ่งเป็นตัวชี้วัดระดับควันบุหรี่มือสองในสถานที่สาธารณะ พบว่า ในแหล่งบันเทิงในจังหวัดอุบลราชธานี สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่องค์การอนามัยโลกกำหนดเกือบสองเท่า ในขณะที่ค่าตัวชี้วัดระดับของควันบุหรี่มือสองในสถานที่สาธารณะอื่นเช่นใน โรงเรียน โรงพยาบาล สถานที่ราชการ และร้านอาหารที่ติดเครื่องปรับอากาศระดับของควันบุหรี่มือสองอยู่ในเกณฑ์ มาตรฐานที่องค์การอนามัยโลกกำหนด งานวิจัยดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการวิจัยร่วมกันใน 8 ประเทศในเอเชีย อันได้แก่ จีน บังคลาเทศ อินเดีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ เวียดนาม และประเทศไทย ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอบกิ้นส์ สถาบันวิจัย FAMRI และกองทุนบลูมเบริก โดยจากการเปรียบเทียบผลการศึกษา พบว่า ระดับควันบุหรี่มือสองในสถานที่สาธารณะที่พบในการศึกษาของประเทศไทย มีค่าต่ำกว่าที่พบในอินเดีย และฟิลิปปินส์ที่พบว่าตัวชี้วัดควันบุหรี่มือสองในสถานที่สาธารณะสูงกว่า เกณฑ์มาตรฐานหลายเท่า ในขณะที่ของประเทศไทยมีเพียงแหล่งบันเทิงเท่านั้นที่พบว่าเกินค่ามาตรฐาน ส่วนผลการศึกษาของประเทศที่เหลือยังไม่มีการเปิดเผย
ในงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกันแต่ทำการวัดการได้รับควันบุหรี่มือสอง โดยการวิเคราะห์ระดับสารนิโคตินในเส้นผม โดย รศ.ดร.นิภาพรรณ พบว่า ระดับนิโคตินในเส้นผมของพนักงานในผับบาร์ที่มีการสูบบุหรี่ สูงกว่าพนักงานในผับบาร์ที่ไม่มีการสูบบุหรี่สองเท่า และ ผศ.ดร.ปัญญารัตน์ ลาภวงศ์วัฒนา ที่ทำการวิเคราะห์เส้นผมของเด็กเล็กในบ้านที่มีผู้สูบบุหรี่ พบ ว่า ระดับนิโคตินในเส้นผมของเด็กเล็กในบ้านมีผู้สูบบุหรี่สูงกว่าระดับนิโคตินใน เส้นผมของผู้ใหญ่ที่ไม่สูบบุหรี่ในบ้านเดียวกันและสูงกว่าเด็กที่ในบ้านไม่ มีผู้สูบบุหรี่ สาเหตุที่ระดับนิโคตินในเส้นผมเด็กเล็กสูงกว่าในผู้ใหญ่ เนื่องจากเด็กเล็กจะอยู่แต่ในบ้าน ในขณะที่ผู้ใหญ่ยังมีการเดินไปมาหรือเดินออกนอกบ้าน ทำให้ได้รับควันบุหรี่มือสองน้อยกว่า คณะผู้วิจัยสรุปว่าพนักงานที่ทำงานในสถานบันเทิง และเด็กเล็กในบ้านที่มีผู้สูบบุหรี่ เป็นผู้ที่ได้รับควันบุหรี่มือสองสูงที่สุด ซึ่ง สอดคล้องกับผลสำรวจที่พบว่าสถานบันเทิงส่วนใหญ่ยังไม่ได้ปลอดบุหรี่ตามที่ กฎหมายกำหนด และร้อยละ 40 ของผู้สูบบุหรี่ไทยยังคงสูบบุหรี่ในบ้านซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพของเด็ก ๆ เป็นอย่างยิ่ง
สนใจสื่อรณรงค์บ้านปลอดบุหรี่สามารถติดต่อขอได้ที่ มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ โทร. 0-2278-1828 หรือที่เว็บไซต์ www.smokefreezone.or.th
ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ : ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่
โทร. 0-2278-1828 / 08-1822-9799