นักวิจัยพบว่าสารพิษจากควันบุหรี่ยังคงตกค้างอยู่ตามกำแพง เพดาน ฯลฯ ภายในที่พักอาศัยของผู้สูบบุหรี่ ซึ่งเป็นอันตรายต่อผู้สัมผัส แม้ผู้อยู่อาศัยเดิมที่เป็นผู้สูบบุหรี่จะย้ายออกไปแล้ว สุขภาพของผู้ที่ย้ายเข้ามาอยู่ใหม่ แม้จะไม่สูบบุหรี่ ยังอาจถูกคุกคามจากสารพิษตกค้างดังกล่าวได้
สารพิษที่เรียกกันว่า “ควันบุหรี่มือสาม” นี้ยังคงพบได้ตามพื้นผิวของสิ่งของภายในบ้าน ฝุ่น พรม แม้ผู้สูบบุหรี่จะย้ายออกไปเป็นเวลากว่าสองเดือนและบ้านได้รับการทำความสะอาดรวมทั้งทาสีใหม่แล้วก็ตาม บ้านพักอาศัยของผู้สูบบุหรี่เปรียบได้กับแหล่งเก็บกักสารพิษจากควันบุหรี่ที่พร้อมจะทำอันตรายผู้ที่เข้ามาอยู่ใหม่โดยไม่รู้ตัว
ทีมงานวิจัยจาก San Diego State University ได้ตรวจสอบที่พักอาศัยของผู้ไม่ได้สูบบุหรี่จำนวน 50 รายและของผู้สูบบุหรี่จำนวน 100 ราย ก่อนและหลังการย้ายออก โดยวัดระดับนิโคตินที่พบบนพื้นผิวภายในบ้าน ในอากาศ และบนนิ้วมือของผู้พักอาศัย รวมทั้งมีการตรวจหาสารโคตินินในปัสสาวะ ซึ่งเป็นตัวบอกถึงการได้รับสารเคมีจากควันบุหรี่
ข้อมูลที่ได้ระบุว่าฝุ่นและพื้นผิวในที่พักอาศัยของผู้สูบบุหรี่มีการปนเปื้อนของสารพิษจากควันบุหรี่เป็นปริมาณสูงกว่าเมื่อเทียบกับที่พักอาศัยของผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ ระดับของนิโคตินบนนิ้วของผู้อยู่อาศัยใหม่ที่ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านของผู้ที่สูบบุหรี่มีปริมาณสูงกว่าเช่นกัน ข้อมูลทั้งสองสอดคล้องกับระดับสารโคตินินที่ตรวจพบในปัสสาวะ
แม้จะยังไม่ได้มีการตรวจสอบผลกระทบของควันบุหรี่มือสามที่มีต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัย แต่สารตกค้างดังกล่าวน่าจะมีผลต่อทารกและเด็กเล็กที่นอนเล่นบนพื้น หรืออยู่ในช่วงหัดคลาน หรือเด็กที่ชอบนำสิ่งของเข้าปาก ทั้งนี้ มีงานวิจัยก่อนหน้ารายงานว่าเด็กที่อาศัยในที่พักที่ไม่มีผู้สูบบุหรี่สามารถได้รับควันบุหรี่จากเพื่อนบ้านในอพาร์ทเมนท์เดียวกันที่ซึมผ่านมาทางกำแพงหรือตามระบบระบายอากาศในอาคารได้
ที่มา: “Smokers’ Former Homes May Retain Tobacco Toxins,” US HealthDay News; Friday, 17 December 2010